
โล่งใจได้ “พิพัฒน์” เข้าใจงานกีฬา นั่งเก้าอี้รัฐมนตรี เตรียมเข้ารับนโยบาย
เผยเร่งยกระดับสนามกีฬาในกกท. รองรับโอกาสยื่นขอเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาใหญ่
หลังจากมีคำสั่งโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ โดย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากพรรคภูมิใจไทย มาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เริ่มเข้าทำงานวันแรกในวันที่ 18 ก.ค.
“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับ นายพิพัฒน์ แต่จากที่ได้ยินผู้ใหญ่ในวงการกีฬาพูดคุยกัน บอกว่า นายพิพัฒน์ เป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ ตั้งใจที่จะเข้ามาพัฒนาองค์กรทั้งในส่วนของกีฬาและการท่องเที่ยว ทั้ง 2 มิติไปพร้อมๆ กัน ค่อนข้างโล่งใจที่จะได้รัฐมนตรีที่เข้าใจในงานกีฬา และเข้าใจบริบทของการพัฒนาประเทศ หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ กกท. ก็ต้องเข้าไปรับนโยบาย ในส่วนของงานที่จะเข้าไปนำเสนอนั้น ก็จะมีสิ่งต่างๆ ที่กกกท. ดำเนินการอยู่ตามแผนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ฉบับที่ 6 รวมถึงการนำเสนอแผนงาน 12 โครงการ ของตัวเอง ที่ได้รับการเห็นชอบจากบอร์ด กกท. เข้าไปรายงานความคืบหน้า และขอคำชี้แนะว่าจะผลักดันโครงการต่างๆ ที่มีอยู่ รวมถึงโครงการใหม่ๆ ที่จะนำมาสู่วงการกีฬาไทยอย่างไรบ้าง
ดร.ก้องศักด กล่าวถึงเรื่องของการปรับปรุงสนามกีฬาต่างๆ ภายในกกท. หัวหมาก ว่า ตอนนี้สระว่ายน้ำ จะพัฒนาขึ้นเป็นอควอติกเซนเตอร์ ได้รับการเห็นชอบจากบอร์ด กกท. แล้ว กำลังเร่งในเรื่องของการออกแบบ จะใช้รับการแข่งขันระดับนานาชาติทั้ง 4 ประเภท ว่ายน้ำ, ระบำใต้น้ำ, โปโลน้ำ และกระโดดน้ำ ส่วนของราชมังคลากีฬาสถาน ก็กำลังปรับปรุงเพื่อให้ได้มาตรฐานนานาชาติ รองรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
“มีหลายมหกรรมกีฬาที่ไทยสามารถจะเป็นเจ้าภาพได้ ทั้งยูธโอลิมปิกเกมส์ หรือเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชียลอาร์ตเกมส์ ซึ่งจะเตรียมสนามให้พร้อม เพื่อจะมีศักยภาพในการจัดกีฬาต่างๆ เหล่านี้ในอนาคตได้” บิ๊กก้อง กล่าวปิดท้าย